ที่มา
ซาลาเปา
ซาลาเปา (จีน: 包子, พินอิน: bāozi เปาจื่อ) พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 นิยามว่า "ชื่อขนมชนิดหนึ่งของจีน ทำด้วยแป้งสาลีปั้นเป็นลูกกลม ข้างในใส่ไส้ มีทั้งไส้หวานและไส้เค็ม"
ซาลาเปาเป็นอาหารจีนชนิดหนึ่งทำมาจากแป้งสาลีและยีสต์ และนำมาผ่านขบวนการนึ่ง ซาลาเปาจะมีไส้อยู่ภายในโดยอาจจะเป็นเนื้อหรือผัก ซาลาเปาที่นิยมนำมารับประทานได้แก่ ซาลาเปาไส้หมู และ ซาลาเปาไส้ครีม สำหรับอาหารที่มีลักษณะคล้ายซาลาเปา ที่ไม่มีไส้จะเรียกว่า หมั่นโถว นอกจากนี้ซาลาเปายังคงเป็นส่วนหนึ่งในชุดอาหารติ่มซำ ในวัฒนธรรมจีน ซาลาเปาสามารถนำมารับประทานได้ในทุกมื้ออาหาร ซึ่งนิยมมากในมื้ออาหารเช้า
ซาลาเปาได้ชื่อว่าได้รับการคิดค้นขึ้นมาโดย จูกัดเหลียง หรือ ขงเบ้ง ในคริสต์ศตวรรษที่ 2 เมื่อจูกัดเหลียงกลับจากการต่อสู้กับเบ้งเฮ็กแล้วก็เดินทางมากถึงแม่น้ำแห่งหนึ่งที่คนแถวนั้นเชื่อว่ามีวิญญาณสิงอยู่ใต้น้ำ ทหารบอกจูกัดเหลียงว่า ถ้าจะข้ามฟาก ต้องตัดหัวทหารทั้งหมดเพื่อบูชาดวงวิญญาณ แต่จูกัดเหลียงไม่อยากให้ทหารต้องตายจึงคิดการทำหมั่นโถวขึ้นมา แล้วปล่อยให้ลอยตามน้ำเพื่อบูชาดวงวิญญาณ เมื่อบูชาแล้ว จูกัดเหลียงก็พาทหารข้ามสะพานไปยังพระนครเซงโต๋
ประโยชน์
ในการปรุงอาหารด้วยวิธีนึ่งนั้น อาหารจะถูกปรุงให้สุกโดยใช้ไอน้ำที่เกิดจากการต้มน้ำภายใต้อาหารนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นอาหารจะไม่มีการสัมผัสโดยตรงกับน้ำที่ต้ม ซึ่งจะส่งผลให้คุณค่าของสารอาหารยังคงอยู่กับอาหารอย่างครบถ้วน
และที่สำคัญในการนึ่งนั้นแทบจะไม่ต้องเติมน้ำมันลงไปในการนึ่งเลย ทำให้การนึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการปรุงอาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก
เคล็ดลับที่สำคัญสำหรับการนึ่งอาหารให้รสชาติดีนั้น วัตถุดิบที่ใช้จะต้องสดมากๆ การนึ่งอาหาร จะต้องใส่น้ำต้มให้เดือดและนำอาหารที่ต้องการนึ่งวางบนจานทนความร้อนและใส่เข้าไปในซึ้ง และปิดฝาให้สนิท
ซาลาเปาไส้หมูสับ และไส้หมูแดง
เป็นไส้ที่มีส่วนผสมของหอมกระเทียม และพริกไทดำเป็นพืชผักที่มีกลิ่นฉุนเป็นอย่างมาก แต่ก็เป็นผักมีประโยชน์หลายอย่าง เช่นกระเทียมมีผลดีต่อสุขภาพด้วยคือ ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี ช่วยลดคลอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งถ้าใครที่รับประทานกระเทียมบ่อยๆ แล้วล่ะก็ จะช่วยไม่ให้เส้นเลือดอุดตันได้
ซาลาเปาไส้ครีม
ไส้ครีมเป็นไส้ที่มีส่วนผสมสำคัญหลาย หลากที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งนมข้น นมจืด นมผง เนยเค็ม เนยจืด และไข่ไก่สด ฯลฯ ซึ่งมีสารอาหารบำรุงร่างกายได้แก่ วิตามิน A วิตามิน D วิตามิน B1 วิตามิน B2 วิตามิน B6 วิตามิน B12 แร่ธาตุแคลเซียม แร่ธาตุฟอสฟอรัส แร่ธาตุโพแทสเซียม แร่ธาตุเหล็ก แร่ธาตุไอโอดีน แร่ธาตุโซเดียม แร่ธาตุแมกนีเซียม แร่ธาตุกำมะถัน ฯลฯ
ซาลาเปาไส้สังขยาใบเตย
ใบเตยสด มีน้ำมันหอมระเหย รสหวาน กลิ่นหอม และมีสีเขียว ซึ่งเป็นสารคลอโรฟิลล์ช่วยลดอาการกระหายน้ำ บำรุงหัวใจ และช่วยทำให้สดชื่น อีกทั้งมีเกลือแร่ แคลเซียม และฟอสฟอรัส
ซาลาเปาไส้ถั่วดำ
ถั่วดำนั้นมีแร่ธาตุอาหารสำคัญ ในทางบำรุงเลือด ขับสารพิษ ขับปัสสาวะ ทำให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก และนอกจากนี้คุณสมบัติที่โดดเด่นของถั่วดำก็คือ ช่วยบำรุงผมให้ดกดำ แข็งแรง และไม่หลุดร่วงง่าย
ซาลาเปาไส้เผือก
เผือกเป็นผักที่จัดอยู่ในอาหารหมู่ที่ 1 นั่นคือแป้ง แต่ไม่ได้หมายความว่าในเผือกไม่ได้มีแต่คาร์โบไฮเดรตอย่างเดียว เพราะยังมีวิตามินต่างๆ มากมาย และยังมีโปรตีน แร่ธาตุ รวมไปถึงธาตุฟลูออไรด์ ที่ช่วยเพิ่มพละกำลัง บำรุงสุขภาพ นอกจากนี้เผือกยังมีคุณสมบัติพิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือ ช่วยป้องกันฟันผุได้
ซาลาเปาไส้ผักรวม
ถือเป็นไส้ที่ประกอบด้วยสารอาหารมากมาย อาทิเช่น ถั่วพู ที่มีสารอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินซี และ วิตามินอี ตำรายาชูกำลังสมัยโบราณบอกไว้ว่า ถั่วพูนั้น ถือเป็นพืชผักที่มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง และบำรุงสุขภาพได้เป็นอย่างดี แครอทเป็นพืชที่ อุดมไปด้วยวิตามินเอซึ่งก็ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ลดความดันเลือด และยังทำให้อายุยืนยาว นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงผิวกร้าน ทำให้กลับนุ่มมีน้ำมีนวลมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยรักษาอาการตาพร่า ตาฟาง ให้กลับสว่างสดใสด้วย เห็ดสามอย่างเมื่อรวมกันนั้นจะมีค่ากรดอะมิโนที่สามารถลดอัตราการเติบโตของ เซลล์มะเร็งได้ ทั้งยังช่วยล้างพิษที่สะสมในตับ ทั้งจากอาหารและสารเคมี เช่น พิษจากสุรา สารตกค้างในเนื้อสัตว์ สารเคมีจากเครื่องสำอาง และพิษจากสารอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นยังล้างไขมันในตับ ทำให้ตับเเข็งแรง สร้างเม็ดเลือดแดงได้ดี การกินเห็ดสามอย่างที่ว่านี้ ก็คือเห็ดอะไรก็ตามที่ทานได้
ซาลาเปาไส้ไก่
ส่วนประกอบของไส้ไก่จะประกอบด้วยไก่ มันเทศ และหอมใหญ่ มันเทศเป็นแหล่งวิตามินบี 6 ช่วยบรรเทาอาการ ก่อนมีประจำเดือน บี 6 ยังช่วยร่างกาย ผลิตพลังงานจากอาหารได้มากขึ้น และเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ต่อการลดน้ำหนัก มันเทศเป็นคอมเพล็กซ์คาร์โบไฮเดรตชั้นดี ให้พลังงาน และปล่อยพลังงานช้า มีกากใยมาก ไม่ก่อพิษต่อร่างกายแบบอาหารที่แปรรูปจากแป้งและน้ำตาล ทำให้อิ่มท้องอยู่ได้นาน ไม่เพิ่มเอวหรือสะโพก ทำให้ตับอ่อนคุณแข็งแรง ซึ่งช่วยให้จัดการกับน้ำหนักได้ดีขึ้น นอกจากนนั้นมันเทศ ยังมีคุณค่าทางโภชนาการ ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ(สูงมาก) วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอาซิน โพเลท วิตามินซี สารเริ่มต้นของสารแคโรทีนและเบต้าแคโรทีน เป็นแหล่งเบต้าแคโรทีนชั้นเยี่ยมกินแล้วจะได้วิตามินเอ มันเทศจึงมีส่วนช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างระบบคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแกร่ง ลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ทั้งน้อย และใหญ่ รวมทั้งมะเร็ง
ซาลาเปาไส้เม็ดบัวฟักทอง
ฟักทองมีสารอาหารบำรุงร่างกายมากมาย ที่สำคัญได้แก่ วิตามินบี วิตามินเอ วิตามินซี และธาตุฟอสฟอรัส ซึ่งปัจจุบันวงการแพทย์ ให้ความสนใจสารเบต้าแคโรทีน ที่มีอยู่ในเนื้อสีเหลืองของฟักทอง ที่มีส่วนช่วยลดโอกาสการเกมะเร็ง สามารถกระตุ้นการหลั่งอินซูลินซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาล ในเส้นเลือด ป้องกันการเกิดเบาหวาน ความดัโลหิต นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงตับ ไต นัยน์ตา และสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์ที่ตายไป นอกจากนี้ฟักทองยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวล เหมาะสำหรับหลังคลอดบุตร ที่ขาดธาตุฟอสฟอรัส และเสี่ยงกับการเกิดหน้าท้องลาย เม็ดบัว มีสรรพคุณ บำรุงประสาท บำรุงไต รักษาอาการท้องร่วง บิดเรื้อรัง สตรีประจำเดือนมามาก
สูตร
สูตรที่ 1
ส่วนผสมที่ 1
- แป้งสาลีตรากิเลนเหลือง 1 ขีด
- น้ำ 370 ซีซี
- ยีสต์ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
ร่อนแป้งด้วยตะแกรงตาถี่ใส่ในภาชนะ นำยีสต์ผสมกับน้ำ คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 5 นาที จากนั้นนำมาเทใส่แป้ง ค่อย ๆ ใช้มือนวดจนเป็นเนื้อเดียวกันประมาณ 30 นาที เมื่อแป้งเนียนได้ที่แล้วจึงใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดให้แห้งคลุมไว้ เพื่อหมักให้แป้งฟู ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
ส่วนผสมที่ 2
- แป้งสาลี 5 ขีด - นมสด 2 1/2 ออนซ์
- น้ำตาลทราย 300 กรัม - ผงฟู 2 ช้อนโต๊ะ
- เนยขาว 100 กรัม
วิธีทำ
เมื่อหมักส่วนที่ 1 ได้ที่แล้ว จึงเทน้ำตาลทรายลงไปในส่วนที่ 1 นวดจนน้ำตาลละลายเข้าไปในเนื้อแป้ง แล้วเทแป้งสาลี ผงฟู นมสดลงไป นวดให้เข้ากัน จึงเติมเนยขาว นวดต่อไปจนเนื้อแป้งฟูนุ่มมือ (ถ้าแป้งแห้งเกินไป ให้ค่อย ๆ พรมน้ำอุ่น พอทำให้นวดแป้งต่อไปได้) นวดประมาณ 10-15 นาที แล้วคลุมด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำบิดแห้ง 20 นาที ใส่ไส้แล้วนำไปนึ่งในน้ำที่กำลังเดือด
สูตรที่ 2
ส่วนผสม / อุปกรณ์
- แป้งสาลี 1 กิโลกรัม - ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 350 กรัม - ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 200 กรัม - เนยขาว 125 กรัม
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
ผสมส่วนแรก
- แป้ง 500 กรัม - ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
- นำเปล่า 350 กรัม
ผสมทั้ง 3 อย่าง เข้าด้วยกันปิดฝา ไว้ในภาชนะกันลมหมักไว้ 1 ชั่วโมง
ผสมส่วนที่ 2
- แป้ง 500 กรัม - น้ำตาลทราย 200 กรัม
- น้ำเปล่า 150 กรัม - เกลือ 1/2 ช้อนชา
- เนยขาว 125 กรัม
ผสมทั้ง 5 อย่างเข้าด้วยกันเอาส่วนแรกที่หมักไว้มารวมด้วยกัน นวดนาน 1/2 ชั่วโมง ด้วยมือให้เนียนมากๆ แป้งจะได้นิ่มฟู (ปั้นได้ประมาณ 60 ลูก หรือ แล้วแต่ขนาดที่ต้องการ)
สูตรที่ 3
ส่วนผสม
- แป้งสาลี 2 กก. - เนยขาว 150 กก.
- เอสพี 4 ช้อนชา - ผงฟู 4 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 2 ช้อนชา - น้ำตาลทรายขาว 480 กรัม
- น้ำสะอาด 1 กก.
วิธีทำ
1. ร่อนแป้ง ผงฟูและยีสต์รวมกัน
2. นำส่วนผสมข้อ 1 ใส่รวมกับน้ำตาล เอสพี น้ำ เนยขาวตีรวมกันในเครื่องนวด 15 - 20 นาทีจนขาวเนียน จับแป้งแผ่ดู ถ้าไม่ขาดเป็นอันใช้ได้
3. แบ่งแป้งออกเป็นก้อนๆ ก้อนละ 30 กรัม คลึงให้กลม พักไว้ 15 นาที
4. ใช้ไม้คลึงรีดแป้งกลับไปกลับมา 2 ด้านให้แผ่เป็นแผ่นแบน กว้าง 3 * 5 นิ้ว ใช้แผ่นพลาสติกคลุม พักไว้ 30 นาที แป้งจะขึ้นประมาณ 2 เท่า
5. นำแป้งที่ขึ้นฟูได้ที่แล้วไปนึ่งในซึ้งที่มีน้ำเดือดนานอย่างน้อย 5 นาที ระหว่างนั้นห้ามเปิดดูเพราะน้ำจะหยดใส่โดนแป้ง ทำให้เสียหมด
6. เมื่อสุกแล้วยกลงพักให้เย็น ใช้มีดฟันเลื่อยผ่าตามแนวยาว เพื่อใส่ไส้
สูตรที่ 4
ส่วนผสม
|
เปอร์เซ็นต์
|
น้ำหนัก(กรัม)
|
แป้งซาละเปา
|
100
|
500
|
น้ำตาล
|
6-8
|
40
|
เกลือ
|
0.5
|
2.5
|
ยีสต์
|
1
|
5
|
น้ำ
|
45
|
220
|
เนยขาว
|
10
|
50
|
นมผง
|
2
|
10
|
น้ำส้ม
|
1-2
|
5
|
วิธีทำ
1. ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน นวดจนได้ก้อนโดที่เรียบเนียน
2. แบ่งโดออกเป็น 4 ส่วน พักไว้ 10 นาที
3. รีดแต่ละส่วนให้เป็นแผ่นบางจนเรียบเนียน แล้วม้วนเป็นแท่งหมอน
4. ตัดแท่งหมอนแต่ละแท่งออกเป็น 4-5 ส่วน วางแต่ละส่วนบนกระดาษ พักไว้ 45 นาที (หรือจนขึ้นเป็น 2 เท่า)
5. นำไปนึ่งน้ำเดือดประมาณ 15 นาที
6. นำก้อนโดที่นวดจนเรียบเนียนแล้วมาตัดให้เป็นก้อนขนาดตามใจชอบ คลึงให้กลม พักไว้ 10 นาที
7. ก้อนโดแต่ละก้อนให้เป็นแผ่นวงกลม ตรงกลางหนา ขอบริมบาง แล้วจึงใส่ไส้คาวหวานตามชอบ พับจีบริม วางบนกระดาษ พักไว้ 45 นาที แล้วจึงนำไปนึ่งน้ำเดือด
สูตรที่ 5
ส่วนผสม
ส่วนที่ 1
- แป้งสาลีที่ใช้ทำซาลาเปา (7 ถ้วย) 700 กรัม
- ยีสต์แห้ง 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ 450 กรัม (1 3/4 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ)
ส่วนที่ 2
- น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ - เกลือป่น 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทรายป่น (1 1/4 ถ้วย) 250 กรัม - เนยขาว (1/2 ถ้วย) 75 กรัม
- ผงฟู 2 ช้อนโต๊ะ - แป้งสาลีทำซาลาเปา (3 1/2 ถ้วย) 360 กรัม
วิธีทำ
1. ส่วนที่ 1 ผสมแป้งกับยีสต์ แล้วใส่น้ำ นวดให้เข้ากัน พักไว้ 30-40 นาที หรือแป้งขึ้น 2 เท่า
2. เทส่วนที่ 2 ลงในส่วนผสมที่ 1 ตามลำดับดังนี้ น้ำ น้ำตาลทรายป่น ผงฟู เกลือป่น เคล้าให้เข้kกัน แล้วใส่แป้ง นวดให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่เนยนวดต่อไป พักไว้อีก 30 นาที หรือแป้งขึ้นเป็น 2 เท่า
3. นำแป้งมาไล่อากาศออก แล้วแบ่งแป้งออกเป็นก้อนเล็ก ๆ ก้อนละ 25 กรัม ปั้นเป็นก้อนกลาง ๆ พักไว้ 15 นาที
4. นำแป้งมาแผ่ออก ใส่ไส้แล้วจีบให้รอบ วางบนกระดาษสี่เหลี่ยม ขนาด 2x2 นิ้ว แล้วพักไว้อีก 20 นาที จึงนำไปนึ่งในน้ำเดือด ประมาณ 10 นาที ก็จะสุก
สูตรที่ 6
ส่วนที่ 1
- แป้งสาลี 1 ขีด - ยีสต์ 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ 370 ซีซี
ส่วนที่ 2
- แป้งสาลี 5 ขีด - นมสด 200 ซีซี
- ผงฟู 2 ช้อนโต๊ะ - เนยขาว 100 กรัม
- น้ำตาลทราย 300 กรัม
วิธีทำ
1. ทำส่วนที่1 ร่อนแป้งด้วยตะแกรงตาถี่ใส่ในภาชนะ นำยีสต์ผสมกับน้ำ คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 5 นาทีจากนั้นนำมาเทใส่แป้ง ค่อย ๆ ใช้มือนวดจนเป็นเนื้อเดียวกันประมาณ 30 นาที เมื่อแป้งเนียนได้ที่แล้วจึงใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดให้แห้งคลุมไว้ เพื่อหมักให้แป้งฟู ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
2. เมื่อหมักส่วนที่ 1 ได้ที่แล้ว จึงเริ่มทำส่วนที่2 เทน้ำตาลทรายลงไปในส่วนที่ 1 นวดจนน้ำตาลละลายเข้าไปในเนื้อแป้ง แล้วเทแป้งสาลี ผงฟู นมสดลงไป นวดให้เข้ากัน จึงเติมเนยขาว นวดต่อไปจนเนื้อแป้งฟูนุ่มมือ (ถ้าแป้งแห้งเกินไป ให้ค่อย ๆ พรมน้ำอุ่น พอทำให้นวดแป้งต่อไปได้) นวดประมาณ 10-15 นาที แล้วคลุมด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำบิดแห้ง 20 นาที เตรียมใส่ไส้ต่อไป
น้ำหนัก(กรัม) |
สูตรตวง
| |
หมูบด
กุ้งแห้งป่น
น้ำพริกเผา
ถั่วเขียวกวน
แป้งสาลีนึ่ง
พริกไทย
เกลือ
กระเทียมเจียว
|
200
50
20
500
325
10
10
100
|
1ถ้วย
1/2 ถ้วย
2 ช.ต.
3 ถ้วย
3 1/4 ถ้วย
1 ช.ต.
1 ช.ต.
1/2 ถ้วย
|
วิธีทำไส้
1. ผัดกุ้งแห้งกับน้ำมันจนหอม ใส่หมูบด น้ำพริกเผา พริกไทย เกลือ ผักให้เข้ากัน พักให้เย็น
2.
ถั่วเขียวกวน แป้งสาลีนึ่ง กระเทียมเจียว นวดให้เข้ากัน ใส่ส่วนผสมที่ผัดไว้นวดผสมให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลม น้ำหนัก 25 กรัม
วิธีการทำ
ขั้นตอนที่1
เตรียมอุปกรณ์ และส่วนผสม
1. เตรียมแป้ง หมูสับ ผัก เครื่องปรุง ไข่ไก่ น้ำตาล เป็นต้น
2. เตรียมกะละมัง ที่จะนวดแป้ง แล้วกะละมังปรุงไส้หมูสับ
ขั้นตอนที่2
นำส่วนผสมมาทำแป้งของซาลาเปา
1.เตรียมน้ำ 1-2ลิตร
2.แยกไข่แดงกับไข่ขาวออกเพื่อนำไข่ขาวมาเป็นส่วนผสมในการทำแป้งของซาลาเปา
3.ใส่น้ำตาลลงประมาณครึ่งกิโลกรัม
4.ใส่ยีสต์ลงไ1/2ช้อนโต๊ะ5.ใส่เนยลงไปประมาณ3ขีด
ขั้นตอนที่3
ทำแป้งซาลาเปา/นวดแป้ง
1.นำส่วนผสมที่เตรียมไว้นำลงในกะละมัง
2.นวดส่วนผสมให้เข้ากับแป้ง
3.นวดแป้งให้เข้าเนื้อกัน ประมาณ 30นาที
4.นำภาชนะมาปิดแป้งที่นวดเสร็จแล้ว
5.รอให้แป้งขึ้นระมาณ30นาที
ขั้นตอนที่4
ทำใส่ของซาลาเปา
1.นำหมูบดที่เตรียมไว้มาใส่กะละมัง
2.ปรุงหมูบดใส่เครื่องปรุงลงไป
3.ใส่ไข่แดงที่เตรียมไว้
4.นวดไส้ให้เข้ากัน
ขั้นตอนที่6
ปั้นซาลาเปา/และนึ่งซาลาเปา
1.ตัดแป้งซาลาเปา
2.ใส่ไส้ซาลาเปาที่เตรียมไว้
3.นำซาลาเปาใส่ซึงที่เตรียมไว้
4.ทิ้งไว้ประมาณ20นาทีแล้วนำปัยนึ่ง
5.นึ่งประมาณ15นาที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น